25 กันยายน 2557
การพิจารณาคุณสมบัติของ S และการรับหุ้นเพิ่มทุนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนเพิ่มเติม เริ่มทำการซื้อขาย 26 ก.ย.2557
รับหลักทรัพย์เพิ่มทุน
เรื่อง : การรับหุ้นเพิ่มทุน
ชื่อบริษัท : บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (S)
ทุนเดิม (บาท) : 549,998,401.00
- หุ้นสามัญ (หุ้น) : 549,998,401
จำนวนหุ้นเพิ่มทุน :
- หุ้นสามัญ (หุ้น) : 4,162,352,331
ทุนใหม่ (บาท) : 4,712,350,732.00
- หุ้นสามัญ (หุ้น) : 4,712,350,732
มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (บาทต่อหุ้น) : 1.00
จัดสรรรให้ : 1) บริษัทสิงห์ พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด จำนวน
1,801,441,632 หุ้น
2) Singha Property Management (Singapore) Pte.Ltd. จำนวน 1,130,964,175 หุ้น
3) คุณสันติ ภิรมย์ภักดี จำนวน 1,229,946,524 หุ้น
ราคาเสนอขาย (บาท/หุ้น) : 1.87
วันจองซื้อและชำระเงิน : 12 ก.ย. 2557
ลักษณะธุรกิจ : 1) ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยปัจจุบันมีโครงการ
Intro Condominium, Town Home และพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เช่าในโครงการ The Light House Plaza
2) ประกอบธุรกิจโรงแรมสันติบุรี บีช รีสอร์ท กอล์ฟ แอนด์ สปา
ที่ปรึกษาทางการเงินกรณี Backdoor Listing : บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)
จำกัด(มหาชน)
วันที่เริ่มซื้อขาย : 26 ก.ย. 2557
หมายเหตุ :
ตามที่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (S) เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2557
ได้มีมติเข้าซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) ของบริษัทดังต่อไปนี้
1) บริษัท เอส ไบร์ทฟิวเจอร์ จำกัด (SBF) ซึ่งเป็นบริษัท Holding Company ที่ถือหุ้นใน 3
บริษัทย่อยที่ถือครองที่ดินเพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย บริษัทสิงห์ พร็อพเพอร์ตี้
ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (SPD) บริษัท แม็กซ์ ฟิวเจอร์ จำกัด (MAX) และบริษัทภิรมย์พัฒน์ จำกัด (BRP)
(รวมเรียกว่า "SBF")
2) บริษัท สันติบุรี จำกัด (STB) ซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรม สันติบุรี บีช รีสอร์ท กอล์ฟ แอนด์ สปา
ทั้งนี้ SBF มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ บริษัทบุญรอด บริวเวอร์รี่ จำกัด ถือหุ้นโดยอ้อมร้อยละ 99
ผ่านกลุ่มบริษัท สิงห์ พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SPM) (ประกอบด้วย SPM และบริษัท Singha
Property Management (Singapore) Pte.Ltd. ซึ่ง SPM ถือหุ้นร้อยละ 100) และบริษัทสันติบุรี จำกัด
มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือคุณสันติ ภิรมย์ภักดี ถือหุ้นร้อยละ 99.99
โดย S จะตอบแทนการโอนกิจการทั้งหมดของ SBF และ STB ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน
4,162,352,331 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาหุ้นละ 1.87 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่า 7,783.60
ล้านบาท ให้แก่กลุ่มSPM จำนวน 2,932,405,807 หุ้น และคุณสันติ ภิรมย์ภักดี จำนวน 1,229,946,524 หุ้น
ทั้งนี้ขนาดรายการของการได้มาซึ่งสินทรัพย์ข้างต้นคิดเป็นร้อยละ 756.79
ตามเกณฑ์มูลค่าของหลักทรัพย์ที่บริษัทออกให้เพื่อเป็นสิ่งตอบแทนการได้มาของสินทรัพย์
ซึ่งเข้าข่ายเป็นการจดทะเบียนโดยอ้อม (Backdoor Listing) ทั้งนี้ S
ได้ยื่นคำขอให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพิจารณาคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียน
เนื่องจาก S ได้ดำเนินการตามมติผู้ถือหุ้นโดยรับโอนหุ้น SBF และ STB และออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับกลุ่ม SPM
และคุณสันติ ภิรมย์ภักดีแล้ว พร้อมทั้งได้ดำเนินการตามเงื่อนไขการรับหลักทรัพย์ โดยกลุ่ม SPM
และคุณสันติ ภิรมย์ภักดีได้นำหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,289,293,783 หุ้น
มานำฝากไว้ที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์(ประเทศไทย) จำกัด เรียบร้อยแล้ว (Silent Period)
ตลาดหลักทรัพย์ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า S
มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ต่อไป
และเห็นควรกำหนดให้หุ้นเพิ่มทุนของบริษัทเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ได้ตั้งแต่วันที่ 26
กันยายน 2557 เป็นต้นไป
หมายเหตุ: ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลการเข้ารับโอนกิจการทั้งหมดของ SBF และ STB ได้จากสารสนเทศต่างๆ
และสรุปข้อสนเทศที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์
______________________________________________________________________